วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

มา “ร่วมเชียร์ไทย” ในศึก ptt Thailand Open 2010

2008 เรามีสมาชิกเข้าร่วมโครงการมากกว่า 2,000 คน


2009 เราเชียร์กันอย่างสุดมันส์ถึงขนาดนักเทนนิสชื่อดังยังมาขอแจม!

2010 เราต้องการคุณ!!!

ติดตามรายละเอียด & ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “ร่วมเชียร์ไทย” ที่;
twitter.com/champch3 & facebook.com/champpeerapol

ปีนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร นั่งที่ไหน มารวมพลังร้องเพลงกันครับ
นี่คือเพลง (s) ที่กลุ่ม “เชียร์ไทย ไปกับกลุ่ม PTT Thailand Open 2010” จะร้องในปีนี้;

เพลงสั้น (ใช้เวลาเราได้แต้มที่ 40 ขึ้นแท่นเตรียมเผด็จศึก)

เพลง สเต็ป (step)
(ปรบมือ) 12 123 12 12 1 ดนัย! (สนฉัตร สรรค์ชัย)

เพลงสุดยอด
สุดยอด Thailand สุดยอด Thailand สุดยอด สุดยอด สุดยอด โอ้ๆๆๆ

เพลงสู้
(ปรบมือ) 12 123 12 12 1 สู้ๆๆๆๆ สู......... สู้!


เพลงยาว (ใช้เวลาเราได้เกม เวลาเราได้เซท เวลานักกีฬานั่งพัก)

เพลง That's The Way We Like
O O O O O O O O O
That's the way (uh-huh, uh-huh)
We like it (uh-huh, uh-huh)
O O O O O O O O O THAILAND
O O O O O O O O O THAILAND

เพลง โว้โวโว
โว้โวโว โวโวโวโว้ THAILAND
โว้โวโว โวโวโวโว้ THAILAND
ล้าลาลา ลาลาลาล้า THAILAND
O O O O O

เพลงอยู่ไหน
ดนัย (สนฉัตร) อยู่ไหน อยู่โน่น อยู่โน่น ดนัย (สรรค์ชัย) อยู่ไหน อยู่โน่น อยู่โน่น
ได้ใจ ได้ใจ เอาไปเลยพี่ ได้ใจ ได้ใจ เอาไปเลยพี่ 12 123 12 12 1 ดนัย! (สนฉัตร สรรค์ชัย)


* สำรองที่นั่ง (บัตรดี & ฟรี) ได้แล้ววันนี้ ขอเพียงคุณมาพร้อมกับใจที่เชียร์ไทย *
*** โทร 085-431-3923 (ตั๋วมีจำนวนจำกัด) ***

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แชมป์ ย้ำชื่นชมคนกีฬา ประกาศจากนี้ไปขอมอง "วิว" ทิวทัศน์สวยๆ!


“แชมป์” รับควงแม่ไปให้กำลังใจ "วิว พงศ์ชนก กันกลับ" อำลาตำแหน่ง Miss Thailand World แอบแย้มชื่นชมความสามารถ รับอนาคตหวังมีสิทธิ์ได้ร่วมงานกัน หลังเชิญ “วิว” มาออกรายการ ชอตเด็ด กีฬาแชมป์ จนเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาว์น

พอเจอตัวพิธีกรหนุ่ม ในงาน Samsung 11 Days Special เจ้าตัวก็ได้บอกปัดไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับรักครั้งเก่า เพราะเรื่องจบแล้วและอยากมองไปข้างหน้ามากกว่า;

“เรื่องนี้ไม่อยากจะพูดถึงอีกแล้ว ผมจะมองไปข้างหน้า มองวิวทิวทัศน์สวยๆ ข้างหน้าดีกว่า น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตอนนี้คำถามส่วนใหญ่ที่ผมถูกถามจะเป็นเรื่องของน้องวิวมากกว่า เรื่องนี้ผมยินดีตอบ เนื่องจากน้องเป็นนักกีฬาทีมชาติ ผมเองก็เป็นคนที่รักกีฬา ก็มีหลายอย่างที่คุยกันแล้วสนุก ซึ่งวันที่เขาอำลาตำแหน่งก็จริงครับที่ผมกับคุณแม่ได้ไปให้กำลังใจ บวกกับนางงาม 30 คนสุดท้ายปีนี้ ก็มีนักกีฬาหลายคนเข้าประกวด ก็เลยรู้สึกว่าเราไปให้กำลังใจพวกเธอดีกว่า หลังจากวันที่วิวอำลาตำแหน่งก็ได้คุยกันบ่อยขึ้น ก็รู้สึกว่าเขามีสิ่งที่คล้ายๆ กับผม คือผมเป็นพิธีกรกีฬา ทำให้คนสนใจกีฬามากขึ้น ตัววิวเองเวลาไปโชว์เทควันโด้ก็มีคนมาขอลายเซ็นเป็นชั่วโมงๆ ผมก็บอกวิวว่า ถ้าคุณอำลาตำแหน่งตรงนี้เสร็จ เราน่าจะมาทำอะไรช่วยกีฬาไทยกันนะ ก็เลยคุยกันถูกคอ มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น”

เมื่อนักข่าวถามว่า ดูหน้าตามีความสุขมาก ตอนที่ไปสัมภาษณ์น้องวิว ออก “ชอตเด็ด กีฬาแชมป์” แชมป์ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า;
“จริงๆ ตอนแรกต้องบอกว่าลำบากใจมาก ตอนที่โปรดิวเซอร์รายการบอกผมว่าเทปวันแม่ สัมภาษณ์วิวกับแม่ไหม ตอนแรกผมก็บอกว่ามันเป็นไอเดียที่ดี แต่ขอไม่เอาดีกว่า เพราะเดี๋ยวมันจะดูเหมือนกับเราเล่นกระแส น้องวิวเองก็ถูกสัมภาษณ์ไปค่อนข้างเยอะแล้ว แต่โปรดิวเซอร์บอกว่า ถ้าเกิดเราไปคำนึงถึงกระแสอย่างเดียว ก็คงไม่ได้ทำอะไรกันเลย เราไม่ได้สัมภาษณ์แนวว่าแชมป์ชอบวิวนะ เราจะสัมภาษณ์ว่าคุณแม่วิวสามารถปั้นลูกสาวมาเป็นนางงาม แล้วก็เป็นนักกีฬาเทควันโด้ทีมชาติได้ ทั้งหมดนี้ทำได้อย่างไร และจะให้วิวสอนเทควันโด้แชมป์ด้วย น่าจะตลกดี เพราะแชมป์เป็นพิธีกรกีฬา แต่ไม่เคยมีใครเห็นแชมป์ใส่ชุดเทควันโด้เลย ท่านผู้ชมคงจะได้หัวเราะกัน ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เราก็เลยตกลงเดินหน้าลุยทำสกู๊ปนี้ ซึ่งกระแสตอบรับจากท่านผู้ชมดีมากครับ”

ชมเทปแชมป์ สัมภาษณ์ วิว ได้ที่นี่:

“168 hrs. สัมภาษณ์ MTW 2009 วิว-พงศ์ชนก & คุณแม่”




ชอตเด็ด กีฬาแชมป์ ตอนที่ 1 “แชมป์ วิว ออกทีวีด้วยกันครั้งแรก”



ชอตเด็ด กีฬาแชมป์ ตอนที่ 2 “แชมป์ โดนเตะออกทีวีครั้งแรก”



ชมคลิปเด็ดๆได้อีกที่:
youtube.com/thethaidream
youtube.com/champshotded

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

"แชมป์ ในแบบที่คุณไม่เคยเห็น"



ชอตเด็ด ครอบครัวแชมป์ (น่ารักมาก)

ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นครอบครัวที่สนิทกันสุดๆ ถึงขนาดพิธีกรมากความสามารถเคยสัมภาษณ์ว่า “เพื่อนที่สนิท & ซี้ที่สุดของแชมป์คือคุณพ่อ”

ในขณะที่ครอบครัว “เอื้ออารียกูล” กำลังทานข้าวเที่ยงอยู่นั้น คุณแม่ และ น้องชาย ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามยุให้ แชมป์ เล่นมุขฮาๆใส่คุณพ่อ ที่กำลังตั้งใจฟังข่าวการเมืองผ่านมือถือ นี่จึงเป็นที่มาของคลิปฮานี้!

ภาพน่ารักๆนี้คงพิสูจน์ถึงความซี้ของครอบครัว “แชมป์ ช่อง 3” เป็นอย่างดี ฟังได้จากเสียงหัวเราะจาก คุณแม่ น้องชาย และ ใบหน้ายิ้มแย้มของคุณพ่อ

(เนื่องจากแชมป์ มีเชื้อจีนใต้จิ๋ว แชมป์ จึงเรียกคุณพ่อว่า “ป๊า” แต่เรียกคุณแม่ว่า “แม่”)


วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แชมป์ ควง แม่ เชียร์ "วิว-พงศ์ชนก"

พิธีกรหนุ่มหล่อ “แชมป์ ช่อง 3” ไม่พลาดที่จะไปร่วมงาน Miss Thailand World 2010 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา แถมสร้างความฮือฮา ควงคุณแม่ในชุดราตรียาวแดง กลายเป็นที่สนใจของทุกคนที่พบเห็น เพราะคุณแม่ในวัย 54 ดูสาว และ สวยมาก!

แม้ “แชมป์” ให้สัมภาษณ์ว่า งานนี้มาให้กำลังใจ และ ขอเชียร์สาวงามดีกรีนักกีฬาทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ซึ่งปีนี้มีทั้งนักยิงปืน นักเทนนิส นักแฮนด์บอล แต่ ข่าววงใน รวมไปถึงแขกที่ร่วมงานต่างมั่นใจว่า สาวหนึ่งเดียว ที่ “แชมป์” มาให้กำลังใจแท้จริงแล้วคือ “น้องวิว พงศ์ชนก กันกลับ” นักเทควันโด้ทีมชาติไทย & มิสไทยแลนด์เวิร์ล 2009 ที่ต้องเดินอำลาตำแหน่งในคืนนั้น

ทุกฝ่ายต่างมั่นใจ เพราะในช่วงระหว่างการประกวด หนุ่นแชมป์ ดูมีความสุข ถ่ายภาพกับแฟนๆที่มาขอถ่ายรูป พูดคุยกับแขกรอบโต๊ะอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อ "น้องวิว" เดินออกมาโบกมืออำลาตำแหน่ง ทันใดนั้น "หนุ่มแชมป์" กลับหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกวินาทีสำคัญของน้องวิว อย่างตั้งใจ

แค่นี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่า ความจริงแล้ว หนุ่มแชมป์มาเชียร์ & ให้กำลังใจใครกันแน่!


วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

The Way of the Young Man "แชมป์-พีรพล เอื้ออารียกูล"



ถ้ายิงคำถามว่าพิธีกรเจเนอเรชั่นใหม่ที่หล่อครบเครื่อง และเป็นตัวเองมาก จนแฟนๆจัดให้เป็นมือวางอันดับต้นๆ แห่งวงการพิธีกรเมืองไทย ชั่วโมงนี้ เป็นใคร? คงมีคนยกมือตอบถูกกันค่อนประเทศว่าเป็น"แชมป์-พีรพล เอื้ออารียกูล"

เพราะทุกรายการที่หนุ่มมั่นคนนี้จัด ไล่ไปตั้งแต่ "ชอตเด็ด กีฬาแชมป์" "168 ชั่วโมง" รวมถึงรายการวิทยุ "Champ Club แชมป์ครับ” ทาง FM 106 และงานเขียนคอลัมน์ให้กับ 106 MAGAZINE รวมไปถึง ข้อความใน http://www.blogger.com/www.twitter.com/CHAMPch3และ http://champch3.blogspot.com/ ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่สนใจของสังคมทั้งสิ้น

ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 5 ปีที่ "แชมป์" อยู่บนถนนสายพิธีกรที่เขารัก ท่ามกลางเสียงปรบมือของคนรุ่นใหม่ ที่มองเห็นเขาเป็นแบบอย่าง ตัวตนของ "ฮีโร่ของวัยรุ่น" "แชมป์-พีรพล" เป็นอย่างไร เซกชั่น TASTE มีคำตอบ!

กว่าจะเป็นแชมป์



"แชมป์" เริ่มงานพิธีกร ผู้ประกาศข่าวกีฬากับช่อง 3 และ Sports Presenter รายการ "ทันโลกกีฬา" เมื่อปี 2548 ขณะมีอายุ 22 ปี เขาใช้โอกาสที่ได้รับพิสูจน์ตัวเอง กระทั่งวงการโทรทัศน์ไทยยอมรับ และกลายเป็นเพชรเม็ดงามของช่อง 3 ในเวลาต่อมา แต่กว่าจะมีวันนี้เส้นทางของพิธีกรดาวรุ่งแห่งปี 2549 ต้องล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน

"ต้องล้มเหลวให้เยอะครับ" เจ้าของรางวัลผู้ประกาศข่าวที่อายุน้อย และโตเร็วที่สุด ในปี 2552 พูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่หอมหวานให้ฟัง พร้อมอธิบายว่า "ล้มเหลวในที่นี้ ผมไม่ได้หมายถึงความล้มเหลว ที่เกิดจากความไม่พยายามนะ อย่างตอนที่ผมเรียนที่อเมริกา ก่อนจะได้รางวัลสักรางวัลหนึ่ง ผมก็ล้มเหลวเป็นสิบๆครั้ง จำได้ว่าครั้งหนึ่งมหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้เด็กๆ มาออดิชั่น ทดสอบ เพื่อจะได้อ่านข่าวในมหาวิทยาลัย ผมเองก็ไปสมัครทุกครั้ง และก็ไม่ได้ 99% เราสู้เขาไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษตอน ป.6 นี่เอง แต่ผมก็บอกกับตัวเองว่า เราไปที่นั่นในฐานะคนไทย ฉะนั้นเราไปสู้ในฐานะคนไทย ซึ่งอาจจะแพ้ แต่ผมไม่กลัวที่จะสู้ เพราะเมื่อคุณยังสู้ โอกาสชนะยังมี"

หลังสวมหัวใจสิงห์พุ่งชนเป้าหมายเหมือนไม่มีคำว่าท้อในหัวใจ เด็กไทยในต่างแดนคนนี้ ก็มีโอกาสได้จัดรายการที่อเมริกา แต่โอกาสที่เขาได้ครั้งนั้นไม่ใช่ได้มาจากความสามารถเพียวๆ หรือเป็นเพราะสำเนียงภาษาอังกฤษของเขาดีกว่าฝรั่งแต่อย่างใด หากแต่เป็นรางวัลของความพยายาม

"ผมได้รับโอกาสนั้น เป็นเพราะวัฒนธรรมของอเมริกันชน ที่ให้คุณค่ากับคนที่มีความพยายามไม่แพ้ความเก่งครับ ทั้งๆ ที่เขาก็รู้ว่าผมพูดไม่เก่งเหมือนเขา แต่เขาก็เห็นในความพยายามของผม ซึ่งนั่นถือเป็นความสำเร็จมากๆ ของผม และกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่สอนให้ผมว่า ความกล้ามีค่ากว่ารางวัลและความสำเร็จเสมอ"

เรียนรู้คน: ศิลปะการอยู่ในโลกแห่งความจริง



หลังศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน วิทยุ & โทรทัศน์ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ที่สหรัฐอเมริกา กลับมาทำงานกับช่อง 3 เมื่อปี 2548 เขาก็พบว่า แท้จริงแล้วโลกแห่งความจริงไม่ได้โหดร้ายกับเด็ก หรือคนที่อ่อนแอ เท่าโหดร้ายกับคนที่ไม่เข้าใจความจริง ประสบการณ์ที่บ่มมาแรมปี ทำให้เขาพบว่า การเรียนรู้คนสำคัญไม่แพ้การเรียนรู้งาน

"ก่อนหน้านี้ผมเต็มร้อยกับทุกงานนะ แต่ตอนนี้คงต้องขึ้นอยู่กับงาน และสภาพแวดล้อมมากกว่า (หัวเราะขื่นๆ) สมมติว่าถ้าต้องร่วมงานกับคนที่อาวุโสกว่าเราเยอะๆ ผมจะทุ่มเทให้ระดับหนึ่ง ขืนมากกว่านั้น อาจไม่ดีกับผม เพราะสังคมไทยเรามีคำพังเพยว่า "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" หรืออย่าง "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี" ก็ถูกนำมาตีความ สนับสนุนให้คนเห็นแก่ตัว คือเราไม่มีการสอนต่อว่าเอาตัวรอดจากอะไร ความชั่ว หรือความดี ไม่รู้นะ ผมว่าคำสอนที่ไม่กระจ่างชัด มันทำให้ประเทศไทยของเราก้าวช้ากว่าที่ควรจะเป็น ที่ผ่านมาผมเห็นเด็กไทยที่มีพรสวรรค์มากมาย แต่พอเจอคำพังเพยแบบนี้จอดทุกราย”

เด็กไทยต้องกล้าทำดีอวด



จากความคิดดังกล่าว ทำให้เขาเชื่อว่า เด็กไทยต้องกล้าทำดีอวด มากกว่าการทำตัวเป็นเด็กหัวอ่อน ที่ไม่รู้จักโตให้ผู้ใหญ่ปลาบปลื้ม เพราะการทำความดีที่อยู่ในกรอบศีลธรรม และไม่ได้เบียดเบียนใคร เป็นสิ่งที่สังคม & ผู้ใหญ่ควรสนับสนุน มากกว่าอ้างคำพังเพย "อาบน้ำร้อนมาก่อน" เข้าข้างตัวเองทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

"จริงๆ แล้ววัฒนธรรมฝรั่งก็มีคำนี้นะ (seniority = คนที่อาวุโสกว่า) แต่ฝรั่งเขาเถียงกันด้วยเหตุผล และที่เขาแน่ก็คือเขาเอาเหตุผลเหนือความอาวุโส ทุกวันนี้ผมจะถามเด็กที่มาฝึกงานตลอดว่า น้องดูรายการพี่น้องคิดว่ามีอะไรที่พี่ควรปรับไหม หรือมีอะไรที่อยากจะเสริมหรือเปล่า ผมไม่เคยกลัวเสียฟอร์มที่จะถาม เพราะผมคิดเสมอว่า ถ้าผมกล้าเปิดใจ รายการผมก็จะดีขึ้น”

แชมป์ พีรพล ไม่ได้มั่นใจตัวเองกับทุกเรื่องหรอก “ผมเพียงแค่มั่นใจในสิ่งที่ผมถนัดเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องของเสื้อผ้าหน้าผม เรื่องอุ่นข้าว หรือเรื่องคอมพิวเตอร์ ผมก็ต้องถาม ต้องมีที่ปรึกษา และรับฟังความคิดเห็นคนอื่น ไม่ว่าความเห็นนั้นจะมาจากคนที่มีอายุอ่อน หรืออาวุโส กว่าผมก็ตาม ผมยึดหลักว่าอะไรก็ตามที่เราไม่ถนัด เราไม่ควรอายที่จะถามครับ"

"แชมป์ไม่ใช่ ONE MAN SHOW หรือข้ามาคนเดียว อย่างที่ใครเขาพูดถึงหรอกหรือ?" เราถาม เขาหยุดคิดเพียงครู่ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ สไตล์เหมือนที่แฟนรายการกีฬา และบันเทิงคุ้นเคยว่า;

"ผมไม่เคยคิดถึง ONE MAN SHOW ผมแค่ออกไปทำงานของผมให้เต็มที่เท่านั้น บางคนอาจมองว่าเป็น ONE MAN SHOW แต่หลายคนอาจมองว่าผมมีอิสระในการทำงาน เสนองานดี หรือพูดมันส์จัง ก็ได้ทั้งนั้น คือนิยามของ ONE MAN SHOW มันกว้างมาก ถ้าถามว่าผมสนุกกว่าไหมในการทำงานคนเดียวก็คงใช่ เพราะผมเป็นคนที่มีจินตนาการสูงมาก และถ้าเกิดผมเห็นอะไรปุ๊บผมก็อยากจะทำตามวิถีทางของผมเอง คือทุกอย่างต้องมากกว่ามาตรฐาน จึงเป็นงานง่ายกว่าหากผมมีอิสระในการทำเอง อันนี้ผมว่าเป็นนิยามผม แต่เป็น ONE MAN SHOW หรือเปล่าอันนี้ก็อยู่ที่ว่าคุณมองผมมุมไหนและ นิยามของคำว่า ‘ONE MAN SHOW’ สำหรับคุณคืออะไร?”

ความมั่นใจที่เขามีทั้งหมด หลายคนอาจเดาว่าเขาเป็นพวก Born to be แต่แชมป์บอกว่าส่วนใหญ่ของความมั่นใจมาจากครอบครัว;

"ครอบครัวช่วยเสริมจุดแข็งให้ผม คุณพ่อคุณแม่ให้โอกาสผมเสมอ จำได้ว่าสมัยที่เป็นเด็ก ผมอยากจะพากย์กีฬา ซึ่งอาจพากย์ไม่ดีเหมือนตอนนี้ แต่ท่านก็ฟัง มันก็เหมือนกับว่า ถ้าคุณอยากให้ลูกเป็นนักดนตรี ตอนที่เขาเริ่มสีไวโอลิน แล้วเล่นผิดโน้ต คุณก็ต้องฟัง ไม่ใช่ว่ากะจะไปฟังตอนที่เขาเล่นคอนเสิร์ตใหญ่อย่างเดียว ผมว่า นั่นเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ผมท่านได้เสียสละ ทุกวันนี้ท่านก็ยังดูรายการผมอยู่ ฉะนั้นผมรู้สึกว่าครอบครัวต้องให้โอกาส และสนับสนุน ผมว่าความเป็นแชมป์ มันมาจากตรงนี้ และที่สำคัญต้องขอบคุณคนดู ที่รู้สึกสนุก และสนุกกับสิ่งที่เราทำด้วย คือเป็นแพกเกจรวมถึงตัวเรา คนใกล้ชิด และก็แฟนๆ ด้วย"

มุมที่อ่อนไหวของพิธีกรมั่น



น้ำตาผู้ชาย อาจเป็นสัญลักษณ์ความอ่อนแอ ที่ใช้ได้กับผู้ชาย (ครึ่งๆ กลางๆ ) บางคน แต่สำหรับผู้ชายที่รวยจินตนาการคนนี้ น้ำตาคือเครื่องหมายของความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ และเขาก็พร้อมที่จะเสียน้ำตาให้กับสิ่งที่มากระทบความรู้สึกเสมอ

"ซีนหนังดีๆ สักเรื่องก็ทำให้ผมร้องไห้ได้แล้ว ลองถ้าชอบแล้วล่ะก็ ผมสามารถดูซีนนั้นๆ เป็นร้อยเป็นพันครั้งได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ หรืออย่างผมเดินเล่นสวนสาธารณะ แค่เห็นพ่อแม่เดินจูงลูกมา เชื่อไหมผมรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว ผมคงเป็นคนละเอียดอ่อนมั้ง และอาจเรียกได้ว่าเป็นคนร้องไห้เก่งมากด้วย เชื่อไหมตอนที่ผมไปเรียนที่อเมริกา ผมร้องไห้ทุกครั้งที่ต้องกลับไปเรียนเลย (หัวเราะ) พ่อแม่บอกว่าครั้งแรกน่าจะเป็นเรื่องปกติ แต่นี่ไปมา 3 ปีแล้วยังร้องไห้อีกชักเริ่มไม่เข้าใจ...คือผมเป็นคนที่เสียน้ำตาง่าย แต่ไม่ถึงขนาดเป็นผู้ชายเจ้าน้ำตานะ...ถ้าเจ้าน้ำตาก็ต้องร้องทุกเรื่องจริงไหม แต่ผมร้องไห้กับบางเรื่อง และมีเหตุมีผล คือถ้าหนังซึ้งก็เสียน้ำตา ถ้าเพลงซึ้งก็ร้องไห้ แต่ถ้ากีฬาไทยแพ้ผมไม่ร้องนะ เพราะผมมีปรัชญาของผมว่า ถ้านักกีฬาเล่นเต็มที่ หากเขาแพ้ ก็แพ้อย่างยิ่งใหญ่ ชนะก็ชนะอย่างภาคภูมิใจ ฉะนั้นจะว่าผมร้องไห้บ่อยก็คงบ่อยแหละ”

เคล็ดลับความสุข



ขณะที่หนุ่มๆ ส่วนใหญ่เลือกให้รางวัลชีวิตด้วยแอลกอฮอล์ แหล่งบันเทิง และหญิงสาว แต่ทุกครั้งที่วันหยุดยาวๆ มาถึง พิธีกรคนนี้จะแสวงหาความสุขด้วยการออกไปจ็อกกิ้งในสวนหลวง ร.9 หรือไม่ก็เล่นอยู่ตามสวนสนุก และสวนสัตว์ ที่ไหนสักแห่ง

"ตอนนี้ผมค้นพบว่า ความสุขของผมคือการออกวิ่งในสวนสาธารณะ การได้ออกไปเที่ยวตามสวนสนุกที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ และสวนสัตว์ ทั้งสามสวนเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีโอกาสได้กลับไปเป็นเด็ก สนุกกับชีวิตแบบสุดๆอีกครั้ง อาจเป็นเพราะรู้สึกดี อากาศที่ร่มรื่นนะ ที่ทำให้หลงใหลสวนสาธารณะ พี่ว่าจะมีใครสักกี่คนกันเชียวที่ไม่ชอบสวนสนุก และสวนสัตว์ หลายคนอาจชอบผับบาร์ แต่ทุกครั้งที่เดินทางออกต่างจังหวัด คำถามแรกที่ผมถามก็คือ มีสวนสนุก มีสวนสัตว์ และมีสวนสาธารณะไหม"

นอกจากความสุขที่แสนจะเรียบง่ายในวันพักผ่อน ในวันทำงาน หรือหลังชั่วโมงทำงานที่พอมีอยู่บ้าง พิธีกรหนุ่มคนนี้ ก็สามารถแสวงหาความสุขได้อย่างชาญฉลาด ด้วยการใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไล่ไปตั้งแต่ความเป็นระเบียบบนโต๊ะทำงาน การแต่งตัว รวมถึงการออกไปนวดหน้า เพื่อให้รางวัลตัวเอง

"ผมเป็นผู้ชายที่ใส่ใจรายละเอียดเยอะมาก อย่างโต๊ะผมเนี่ย ถ้ากระดาษวางไม่เป็นระเบียบ หรือมุมไม่เท่ากันนิดหน่อย ผมจะต้องจัดให้เท่ากัน (หัวเราะ) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมชอบอย่างนั้น หรืออย่างเสื้อผ้า ก็ต้องเรียงสีจากดำไปหาขาว คือมีความสุขที่จะใส่เสื้อผ้าดีๆ ผ่อนคลายที่จะออกไปนวดหน้า นวดน้ำมันอโรมาเทราพี บางครั้งยังถามตัวเองเลยว่า เยอะไปหรือเปล่า แต่มันคือผมไง ถ้าถามว่าต้องลดไหม ก็คงต้องลดเป็นบางเรื่อง เพราะว่ามันเยอะไปในบางอย่าง สมมติว่ามีน้ำอยู่ 1 กระป๋อง ผมก็ชอบที่จะเห็นมันสองกระป๋อง คือมันเป็นนิสัยมั้งครับ เวลาที่เห็นใครกินข้าวหก ผมจะรู้สึกคันขึ้นมา ซึ่งก็อาจเป็นเพราะที่บ้านผมสอนให้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง บ่อยครั้งก็ต้องเช็ดโต๊ะ ล้างจานบ้าง ฉะนั้นวิธีที่ทำให้ผมสบายที่สุดคือห้ามกินข้าวหก เพราะจะได้เหลือหน้าที่แค่ล้างจานอย่างเดียว (หัวเราะ)!”

บทเรียนรัก



"คุณได้อะไรจากความรักที่ผิดหวังบ้าง?" เราหยุดคุยเรื่องความสุข หลังเสียงหัวเราะเขาเบาลง "ได้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือความโสด" เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ก่อนปล่อยประโยคถัดมาว่า "ได้ความทรงจำดีๆ มาเก็บไว้ และก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ที่สำคัญผมอยากให้น้องๆ ทุกคนเห็นว่า ต่อให้เราจะต้องเดินบนถนนคนละเส้น เราก็สามารถพูดถึงสิ่งที่ดี และเก็บความทรงจำที่ดีต่อกันได้ เหมือนอย่างที่พุทธศาสนาเคยสอนว่า ความโกรธไม่สามารถแก้ด้วยความโกรธ แต่ต้องแก้ด้วยความรัก และความเข้าใจ ยากครับ...ยาก แต่ถ้าใครทำได้ก็จะมีความสุข ถึงทุกอย่างจะย้อนกลับไปไม่ได้ แต่มันจะพาเราไปสู่สิ่งที่ดีเสมอถ้าเราเรียนรู้จากมัน ถ้าถามว่าจากนี้ไปสเปกผู้หญิงในฝันเป็นอย่างไร ก็คงต้องสวย และสามารถเชื่อใจกันได้ รักเดียวใจเดียว ไม่มีความลับซึ่งกันและกัน รักสุขภาพ หุ่นดีเพราะให้ความสำคัญกับสุขภาพตลอดเวลา ที่ฝันไว้ก็คือ ผมอยากมีแฟนที่ 7 โมงเช้า ตื่นขึ้นมาหอมแก้มกันสักฟอด แล้วออกไปวิ่งด้วยกันที่สวนสาธารณะ มีความเป็นไทย เช่น รีดเสื้อผ้าได้ ทำอาหารเป็น เพราะบอกตามตรงว่าผมเองอุ่นข้าวยังไม่อร่อยเลย (หัวเราะ) น่าอายจริงๆ ซึ่งผมไม่อยากให้ความเป็นหญิงไทยหายไปเพราะการมาถึงของเทคโนโลยี ส่วนเรื่องเจ้าชู้ สบายใจได้เลย ใครที่รู้จักผม จะรู้ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ ผมไม่เคยเล่นกับความรัก ผมจะไม่ยอมเล่นกับหัวใจผู้หญิงเด็ดขาด เพราะถือเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิง และนั่นไม่ใช่วิธีการของผม"

ตัวตน "แชมป์ พีรพล"



"ว่ากันตามจริงเรื่องไม่เจ้าชู้นี่ เป็นจุดแข็งที่ผมรู้สึกภูมิใจนะ แม้หลายคนจะแซวว่าผมใช้ชีวิตไม่คุ้มก็ตาม แต่ชีวิตที่คุ้มของแต่ละคนอยู่บนนิยามที่ต่างกัน บางคนบอกว่าควงยิ่งเยอะยิ่งดี แต่สำหรับผม ถ้ามีโอกาสใช้ความสำเร็จที่ตัวเองมี ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เช่นได้เป็นพรีเซนเตอร์ต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือถ้ามีโอกาสได้เป็นพรีเซนเตอร์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เป็นพรีเซนเตอร์ปลุกกระแสให้คนไทยรักไทย นั่นแหละคือชีวิตที่คุ้ม คนบางคน การได้ควงผู้หญิง หรือรวยเร็ว คือความยิ่งใหญ่ แต่สำหรับผมไม่ใช่ เพราะสิ่งที่เหนือจากความสำเร็จ คือการทำให้ตัวเองมีค่า ทุกคนอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ผมอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและมีค่าด้วย!”


ข่าวลือ ช่อง 7 เตรียมแย่งตัวจากช่อง 3?



“อย่างข่าวที่ออกมาว่าผมจะย้ายช่อง ขอยืนยันอีกครั้งว่า ช่อง 3 เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของผม ผู้บริหารเป็นเหมือนคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้ผมมีวันนี้ และผมก็บูชาความจงรักภักดี มากกว่าสิ่งใด อย่างที่บอกสาเหตุที่ผมชอบ ราอูล กอนซาเลซ และ ไรอั้น กิ๊กส์ มากกว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด ก็เพราะว่าเขาไม่ย้ายทีม และโดนใบเหลือง ใบแดงน้อยมาก ชีวิตผมบูชาอยู่ 3 เรื่อง คือความจงรักภักดี ความใสสะอาด และ คุณธรรม ผมว่าสังคมไทยควรตัดสินคุณค่าของคนที่ความดี ไม่ใช่ยกย่องบูชาความสำเร็จและ ความรวยเพียงอย่างเดียว เพราะถ้ามองเพียงแค่ความสำเร็จ เราจะกลายเป็นสังคมที่ชื่นชมชัยชนะที่สกปรก มากกว่า การแพ้พ่ายที่ใสสะอาด ซึ่งผมคงไม่ต้องบอกนะว่า จะเกิดอะไรกับประเทศนี้?”

สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ (กรกฎาคม 2553)
อ่านผลงานการเขียน ของ แชมป์ได้ที่ http://champshotded.blogspot.com/

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แชมป์ ใส่ชุดเทควันโด้เป็นครั้งแรกในชีวิต!!!




ความมันส์ และ ความฮาจะเกิดขึ้น!

เราอาจเห็น “วิว พงศ์ชนก กันกลับ” นักกีฬาเทควันโด้ทีมชาติ กวาดเรียบทุกรางวัลบนเวทีนางงาม ไม่ว่าจะเป็น นางงามขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน นางงามหุ่นดี และ มงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009

แต่แท้จริงแล้ว ความฝันสูงสุดของเธอมิใช่วงการบันเทิง ไม่ใช่การเป็นนางเอก ไม่ใช่นางแบบ แต่เป็นการเปิดโรงเรียนสอนเทควันโด้ให้น้องๆเด็กๆที่ด้อยโอกาส

แชมป์ พีรพล อาสาเป็นลูกศิษย์คนแรกของเธอ & ใส่ชุดเทควันโด้เป็นครั้งแรกในชีวิต!

เทควันโด้ แบบร่ายรำคืออะไร? เธอ มีพลังหมัด แค่ไหน?

ทุกคำตอบ ศุกร์ 13 ส.ค. นี้ 12.55 น. ใน ชอตเด็ด กีฬาแชมป์



ชมรายการย้อนหลังได้ที่ http://www.youtube.com/champshotded

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

“แชมป์” และ “วิว” จะออกทีวีด้วยกันเป็นครั้งแรก!


หลังเป็นข่าวหน้า 1 ตลอด เดือนที่ผ่านมา และ โดนเม้าท์ว่า ''แชมป์'' พีรพล เอื้ออารียกูล กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับสาวงามจากเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ อย่าง ''วิว'' พงศ์ชนก กันกลับ

แม้ทั้งคู่ได้ออกมาปฏิเสธไปแล้วว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ ความสัมพันธ์แค่พี่น้องร่วมงานกันเท่านั้น โดยเฉพาะทางด้าน ''วิว'' ที่ออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เวลานี้ยังไม่คิดเรื่องมีแฟน ขอตั้งหน้าตั้งตาเรียน ทำงาน ควบกับการเป็นนักกีฬาเทควันโด้ทีมชาติไทยให้เป็นเลิศ

เสียงเม้าท์ที่กำลังเลือนหายไปอาจกลับมาดังอื้ออึงอีกรอบ เมื่อ ''แชมป์'' บุกไปนั่งคุยกับ ''น้องวิว'' และคุณแม่อย่างออกรสออกชาติถึงบ้าน



นี่คือเรื่องราว และ พลังของคำว่า “ความฝัน!”

คนเราต่างมีฝันที่แตกต่างกัน แม่บางคนฝันอยากให้ลูกโตขึ้นมี ''ธงชาติ ติดที่อกซ้าย'' เป็นนักกีฬาทีมชาติไทย

แม่บางคนฝันอยากเห็นลูก ''ใส่มงกุฎ'' เป็นนางงามที่สวยที่สุดในประเทศ

แต่คุณแม่ภาวนาของ ''วิว'' พงศ์ชนก กันกลับ โชคดีกว่าใครๆ! เพราะลูกสาวเธอเป็นทั้งนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย และมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009

แม้อีกเพียง 2 วันภารกิจนางงามของเธออาจจบลง แต่ความรักที่ 2 แม่ลูกมีให้กันตลอด 18 ปีที่ผ่านมา จะดำเนินต่อไป และ อบอุ่นขึ้นทุกวัน

ความสัมพันธ์ที่น่ารัก ความประทับใจที่ทั้ง 2 มีให้กัน แต่ไม่เคยมีโอกาสบอกกันมาก่อน ฝันต่อไปของ 2 แม่ลูก จะถูกเปิดเผย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจ ให้แม่และลูกทุกๆ คน

ในรายการ 168 ชั่วโมง คืนวันพุธที่ 11 ส.ค. เวลาเที่ยงคืน

ชมรายการย้อนหลังได้ที่ http://www.youtube.com/champ168hrs

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.siamdara.com/

"แชมป์" รับคุยถูกคอนักกีฬา


''แชมป์ พีรพล'' รับคุย ''วิว พงศ์ชนก'' ถูกคอเพราะคอกีฬาเหมือนกัน พัฒนาความสัมพันธ์หรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ประชาชนถามถึง ว่าแท้จริงแล้วนั้นพิธีกรกีฬาคนเก่ง “แชมป์ พีรพล เอื้ออารียกูล” จะมีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับ ''วิว พงศ์ชนก กันกลับ” นักกีฬาเทควันโด้ทีมชาติ สาวสวยดีกรีนางงาม มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2552 (รวมไปถึงรางวัลนางงามขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน & นางงามหุ่นดี) ได้หรือเปล่า เรื่องนี้พิธีกรหนุ่มบอกว่า;

“ผมขอเรียนว่าในช่วงฟุตบอลโลก 2010 ที่ผ่านมา ผมต้องเสนอข่าวเกี่ยวกับฟุตบอลโลก แล้วรายการวิทยุของผม (Champ Club แชมป์ ครับ ทุกวันเสาร์ 20.30 น. ทาง FM 106) ก็อยากได้ผู้หญิงที่รู้เรื่องกีฬามาคุย บังเอิญช่วงนั้น น้อง “วิว” เธอเป็นผู้หญิงคนแรก และ ก็เป็นนางงามคนแรกที่ถูกแต่งตั้งเป็นทูตเทควันโดของโลก ผมก็เลยเชิญน้องมาออกรายการวิทยุ ก็เลยกลายเป็นข่าว! ไม่ได้มีการจีบน้องครับ แต่ถ้าถามว่าคุยแล้วสนุกไหม ก็คงต้องบอกว่าใช่! เพราะผมเป็นพิธีกรกีฬา ดังนั้นการคุยกับนักกีฬาไม่ว่าจะเป็นกับพี่บอล-ภราดร ศรีชาพันธุ์, พี่ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ลีซอ-ธีรเทพ วิโนทัย หรือ ตัวน้อง “วิว” เองก็คงสนุก ถูกคอกว่าคุยกับคนในวงการอื่นๆ แค่นั้นเองครับ''


วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ลือ"แชมป์-พีรพล"โดนช่อง 7 ฉกตัว



กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อจู่ๆ ก็มีข่าวลือว่าวิกหมอชิดเตรียมมาทาบทามพิธีกรหนุ่ม ''แชมป์- พีรพล เอื้ออารียกูล'' ไปร่วมงานด้วย หลังจากที่วิกพระราม 4 ได้ดึงตัว 2 นักแสดงแม่เหล็กอย่าง ''ป๋อ'' ณัฐวุฒิ และ ''พิงค์กี้'' สาวิกา มาร่วมงานอย่างเป็นทางการแล้วนั่นเอง

โดยล่าสุด “แชมป์” ยันไม่คิดชิ่งหนีช่อง 3 เข้าใจ ''นายประวิทย์'' ไม่ห้าม เพราะเป็นเรื่องของความใจกว้าง ยันขออยู่วิกพระรามสี่ไปจนกว่าจะเลิกอาชีพพิธีกร

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามแชมป์ ว่า คิดจะย้ายไปอยู่ช่อง 7 สีจริงหรือ เรื่องนี้พิธีกรหนุ่มหัวเราะอย่างร่าเริงก่อนจะบอกว่า เป็นเรื่องของกระแสข่าวลือที่คนคิดและพูดกันไปเองมากกว่า;

''ผมว่าข่าวลือเหล่านี้น่าจะมาจากช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ที่ทางช่อง 3 จับมือกับช่อง 7 และทางผู้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก ได้ร่วมกันทำรายการ Road to World Cup โดย 10 เทปแรกออกอากาศทางช่อง 3 และ 10 เทปหลังออกที่ช่อง 7 ท่านผู้ชมก็อาจตกใจที่เห็นผมไปออกที่ช่อง 7 ผมขอเรียนว่า หากผมเป็นนักกีฬาที่เกิดจากสโมสรไหนแล้ว ผมก็อยากจะอยู่ที่สโมสรนั้นทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ให้กลายเป็นตำนานไปเลยกว่า ผมเกิดจากช่อง 3 ผมเองก็ภูมิใจที่ได้ไปออกช่องอื่น แต่ยังไงก็หัวใจผมก็ยังอยู่กับช่อง 3 ครับ นายประวิทย์ มาลีนนท์ เหมือนพ่อคนที่ 2 ของผม คือจะยังไง ใจผมก็เป็นช่อง 3 ถ้าเป็นไปได้ อยากจะทำที่นี่ไปจนกว่าผมจะไม่ได้ทำอาชีพนี้แล้วครับ''

เคลียร์ประเด็นย้ายค่ายเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวจึงไม่พลาดที่จะถามเรื่องที่หนุ่มแชมป์ตามไปเฝ้า ''น้องวิว-พงศ์ชนก กันกลับ (Miss Thailand World 2009)'' ในงานแถลงข่าว Miss Thailand World จนเป็นข่าวหน้า 1 ว่าเท็จจริงอย่างไร เรื่องนี้พิธีกรชื่อดังเผยว่า;



''ผม เคยสัมภาษณ์น้องออกรายการวิทยุ ในฐานะที่วิวเป็นทูตเทควันโดหญิงคนแรกของโลก ซึ่งผมมองว่ามันน่าสนใจ ทำให้ได้รู้จักและคุยกัน คือปกติผมเป็นคนที่ชื่นชอบคนที่รักกีฬาอยู่แล้ว และน้องเขาบอกว่าอยากเป็นพิธีกรกีฬาด้วยผมก็เลยรู้สึกว่า ถ้าได้ทำงานคู่กันน่าจะเป็นเรื่องที่ดี น้องก็ขอคำปรึกษา และวันนั้นมีงานแถลงข่าว น้องเขาก็ชวนลงไปดู ผมก็ไปดู ไม่ใช่ผมแค่คนเดียว แต่มีพี่ๆทีมงานวิทยุอีกหลายคนครับ ถามว่าตรงสเปกไหม ผมก็เคยบอกว่าผมชอบผู้หญิงที่เล่นกีฬา สนใจในกีฬา แต่กับน้องเราได้คุยกันน้อยมากเลยครับ ส่วนในเรื่องข่าว และ กระแสต่างๆ ผมคงจะไปควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมควบคุมได้คือผลงานหน้าจอของผม จะมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหรือไม่ ผมขอให้ผมสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพและมีคนเห็นผม รู้จักผม และชื่นชอบผมจากผลงานแบบนี้ดีกว่า ครับ'' แชมป์กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ตกลงสเปกแชมป์จะต้องเป็นนางงามด้วยหรือเปล่า เรื่องนี้แชมป์กล่าวว่า;

''ไม่หรอกครับ ผมว่าเรื่องของความสวย เรื่องของนางงาม มันเป็นโบนัสมากกว่าครับ แต่แท้จริงแล้วมันต้องดูกันที่จิตใจมากกว่าครับ''

ดูจากรูปใน “Official Fan Page” ของหนุ่มแชมป์แล้ว ก็คงบอกได้ว่า รักช่อง 3 จริงๆ!





วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

FAIR PLAY สกู๊ปกีฬาที่จะทำให้คุณซึ้งจนร้องไห้ โดย แชมป์ ช่อง 3


ผมเป็นพิธีกรทีวีมาแล้ว 5 ปี ส่วนใหญ่ 99.99% ท่านผู้ชมจะประทับใจในความคิดสร้าง สรรค์, ในปรัชญา, ในลูกเล่น, ในความสนุก, ในความมันส์, และ ในความขำ ของรายการที่ผมผลิต, แต่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ที่รายการ“ชอตเด็ด กีฬาแชมป์” ทำให้พี่ๆผู้ประกาศ พี่ๆในห้องส่ง และแฟนๆทั่วประเทศซึ้งจนร้องไห้! วงการกีฬาในปัจจุบันสกปรกเหลือเกิน, แต่ผมหวังเป็นอย่างสูงว่าราย การของผม ณ วันจันทร์ที่ 19 ก.ค. 2553 จะเปลี่ยนมุมมอง และ ชีวิตของนักกีฬา & ท่านผู้ชมทุกๆท่านครับ ผมไม่รู้ว่านี่คือผลงานที่ดีที่สุดของผมหรือไม่ แต่ที่ผมแน่ใจคือนี่เป็นงานชิ้นหนึ่งที่ผมภูมิใจมากที่สุดครับ”

พีรพล “CHAMP” เอื้ออารียกูล

ชมคลิปเด็ดๆได้อีกที่:

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แชมป์ โชว์ตัว & โชว์ลีลาเดาะบอล!









ในเวทีกีฬาระดับโลก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่มีแคแรกเตอร์โดดเด่น มีความเป็นแฟชั่นสูง ไปที่ไหนก็จะเป็นจุดเด่น และหากนึกถึงพิธีกรกีฬาหนุ่มฮอตสุดที่ภาพลักษณ์ดูดี เป็นคนที่มีความมั่นใจทั้งใน และนอกสนามเลย ทุกคนต้องนึกถึง “แชมป์ พีรพล” ว่าแล้วหนุ่มแชมป์เลยมาโชว์ลีลาเดาะบอล และมาเผยเคล็ดลับผู้ชายดูดี ในงาน “Clear Men เติมความมั่นใจ เชียร์บอลระดับโลก” ที่คาร์ฟูร์ พระราม 4 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แชมป์ตอบคำถาม วันที่ 28 มิถุนายน 2553 - "ความสัมพันธ์ แชมป์ และ น้องชาม"


28 มิถุนายน 2553

สวัสดีครับท่านผู้ชม, พี่ๆนักข่าว แฟนๆช่อง 3 และ Champ Family Club,

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ๆนักข่าวรวมถึงบุคคลที่ใกล้ชิดได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับ “เรื่อง: ผม และ น้องชาม” ผมต้องขอโทษทุกๆฝ่ายที่ผมไม่สามารถให้ความร่วมมือเท่าที่ใจผมปรารถนาได้ครับ

เนื่องจากผมเป็นฝ่ายชาย เมื่อรักสดใส เบิกบาน ทั้ง 2 ฝ่ายใครจะพูดก็ได้, แต่ในกรณีนี้ผมต้องให้เกียรติผู้หญิงครับ ผมต้องรอให้น้องชามออกมาเปิดใจเรื่องนี้ก่อน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาน้องชามเองได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว ผมจึงขอเขียนจดหมายฉบับนี้ ไม่ใช่เพราะผมต้องการจุดประเด็นเรื่องส่วนตัว (ข่าวแบบนี้คงไม่มีใครอยากจะพูดถึงหรอกครับ) ไม่ใช่เพราะผมอยากแก้ข่าว แต่ที่ผมทำอยู่นี้ เนื่องจาก ที่ผ่านมามีข่าวลือออกมามากมาย ทั้งจริง และ ไม่จริง มีมูล และ ไม่มีมูลตามลำดับ ผมเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อบอกความจริงให้แฟนๆรายการ ให้ท่านผู้ชมที่ติดตามรายการผม รวมไปถึงแฟนคลับและน้องๆที่ดูผมเป็นแบบอย่าง ได้ข้อมูลโดยตรงจากตัวผมเองครับ

ช่วง เดือนที่ผ่านมา เราทั้ง 2 คนต้องการทุ่มเวลาให้กับงานอย่างเต็มที่ ตัวผมเองก็ต้องอุทิศเวลาส่วนใหญ่ในการเสนอข่าวเรื่องฟุตบอลโลก น้องชามก็มีงานของเธอเอง ทำให้เราเริ่มห่างกัน และ ในที่สุดเราตัดสินใจเปิดช่องว่างให้กันและกัน เดินตามความฝันที่ต่างคนอยากจะทำ ผมกับน้องชามก็ห่างกันได้เดือนกว่าๆ และ เราไม่ได้คุยกันสักพักนึงแล้ว สำหรับเหตุผล ผมมั่นใจว่าทุกๆท่านคงเข้าใจ และ เห็นใจว่าคงไม่เหมาะสมที่จะนำเรื่องส่วนตัวในเชิงลึกมาพูดกันอีก ผมคงตอบสั้นๆว่า เรามี ปรัชญาชีวิตที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม เราต่างมีความทรงจำที่ดีในช่วงที่เราได้คบกันครับ

หลาย ท่านถามผมว่าทำไมประกาศว่าคบกันแล้วไม่กี่เดือนก็เลิก ตรงจุดนี้ผมต้องเรียนว่าเราได้คบกันหลายเดือนก่อน ที่เราจะประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลว่าเราต้องการศึกษาซึ่งกันและกันถึงจุดที่เรามั่นใจว่าฐานความรัก เราแข็งแกร่งในระดับนึง แต่สุดท้ายก็ยังต้องห่างกันอยู่ดี นี่แหละคือความรัก คาดเดาไม่ได้จริงๆครับ ส่วนในประเด็นมือที่ 3 นั้น ตัวน้องชามเองก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า “ทั้งผมและ น้องชาม ต่างไม่ได้มีใครใหม่” ไม่มีมือที่ 3 ครับ

นี่คือความในใจทั้งหมดที่ผมอยากจะเรียนกับทุกท่านครับ

สุด ท้าย ผมอยากขอขอบคุณทุกกำลังใจ และ ทุกๆท่านที่ให้ความสนใจกับเรื่องผมและน้องชาม ตอนนี้เราทั้ง 2 มองไปข้างหน้า เริ่มบทใหม่ในชีวิต ความรักที่ผมมีให้น้องยังเหมือนเดิม คงจะเปลี่ยนแค่จากในฐานะคนรัก มาเป็น พี่ชาย และ เพื่อนผู้ให้คำปรึกษา ผมขอขอบคุณทั้งครอบครัวผม และ ชาม ผมขออวยพรให้น้องชามและทุกๆท่านโชคดีในชีวิตการงาน และ ชีวิตรักครับ

พีรพล “แชมป์” เอื้ออารียกูล

Twitter.com/CHAMPch3

Facebook.com/CHAMPch3

champch3.blogspot.com

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ดู MATCH แห่งฤดูกาล ในห้อง VIP ห้องละ 200,000 บาท กับ แชมป์ ช่อง 3!


ที่สุดแห่งมหากาพย์ลูกหนังไทย
THAI PREMIER LEAGUE นัดที่ 8

เมืองทอง United (รองจ่าฝูง) vs ชลบุรี FC (จ่าฝูง)
นัดประวัติศาสตร์ที่มีศักดิ์ศรี และ ตำแหน่งจ่าฝูงเป็นเดิมพัน

ศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2553
เวลา 18.30 น.

พิเศษสุด!!!

ชม match ชิงจ่าฝูง แบบไม่ธรรมดา ในห้อง VIP ห้องละ 200,000 บาทกับแชมป์-พีรพล & ทีมกีฬาช่อง 3!

กติกาง่ายมากครับ; ในรายการ "ชอตเด็ด กีฬาแชมป์" วันพุธ และ ศุกร์นี้ ประเด็นที่ผมนำเสนอคือ; 32 ทีมที่ได้ไปลุยบอลโลก 2010, ทุกทีมจะมีคำคมประจำชาติติดอยู่ข้างรถบัส

"หากสักวันนึง เราได้ไปฟุตบอลโลก คุณอยากมีคำคมปลุกใจอะไร ติดข้างรถ Bus ทีมชาติไทย!"

คำคมผู้ใด โดนใจทีมงาน ก็จะได้ไปดูบอลในห้องละ 200,000 ครับ
มี 1 รางวัลๆละ 2 ใบเท่านั้นเพราะห้องจุได้แค่ 8 ท่าน

ส่งคำคม (เชียร์ และ ให้กำลังใจทีมฟุตบอลไทย) มาที่ twitter.com/CHAMPch3 หรือ twitter.com/CHAMPshotded

ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 14.00 น. วันศุกร์ 28 พ.ค. ใน twitter.com/CHAMPch3 และ twitter.com/CHAMPshotded โดยทีมงานจะส่ง Direct Message เบอร์โทรกลับให้ผู้โชคดีเพื่อแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนุก

"ลูกฟุตบอลมีลมอยู่ข้างใน แต่มีหัวใจอยู่ข้างสนาม คือ แฟนบอล"

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เมื่อคนฮา เจอ คนกีฬา!!!



"อยู่ในวงการมาจะ 5 ปีแล้ว ผมได้เจอทั้งนักการเมือง นักกีฬา นักร้อง นักแสดง และ คนดัง แต่การได้เจอพี่คนนี้ ทำให้ผมตื่นเต้นมากเป็นพิเศษครับ ผมปลื้ม & ชื่นชม เค้ามานานแล้ว ชอบมุมมองความคิด ชอบที่เค้าบอกว่าคนไทยเรามักเรียงความสำคัญแบบงงๆ

ในที่สุดได้เจอเค้าแล้ว! ลึกๆผมว่าเรามีหลายสิ่งที่คล้ายกัน พี่อุดม ใช้ความตลก ใช้ความฮา ในการทำให้ประเทศไทยก้าวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนผมเองก็อยากใช้รายการทั้งกีฬา และ บันเทิง เพื่อสร้างประโยชน์ให้ชาติครับ